วันนี้เกือบแก้ปัญหาผู้ป่วยอัลไซเมอร์ไม่ผ่าน (๑๙.)

ปลูกมะละกอคู่กัน ตามวิถีธรรมชาติ
ถ้าควบคุมการปลูก ไม่ปลูกแบบนี้แน่


[วิถีของผู้ดูแล]
ปกติเวลาดูแลคุณแม่ที่บ้าน
ผมก็จะนั่งเป็นเพื่อนท่าน ตัวผมอยู่หน้าคอมฯ
ส่วนคุณแม่ก็นอน กลิ้งไปมาบนที่นอน หรือนั่งดูทีวี
แต่ท่านจะเห็นผมนั่งด้วยตลอด 
เพราะย้ายโต๊ะมาหน้าห้องท่านเลย คุยกันบ้าง
แต่ผมกับคุณแม่ คุยกันคนละแนวมาตลอด
เพราะชีวิตที่ผ่านมา อยู่คนละสายอาชีพ
อีกอย่าง ผมไม่ค่อยรู้เรื่องเพื่อนบ้าน หรือเพื่อนท่าน
ไม่เหมือนคุณน้า ที่รู้จักงานท่าน รู้จักเพื่อนบ้านมากกว่าผม
เวลาอยู่หน้าคอมฯ
ผมก็จะเขียนเรื่องราวในบล็อก ปรับปรุงเว็บเพจการศึกษา
ตามประสานักคอมพิวเตอร์ เตรียมสอนบ้าง ไรบ้าง

[คุณแม่คงเบื่อ]
วันนี้คุณแม่นอนพักหลังข้าวเช้า ได้หนึ่งตื่น
สงสัยจะเริ่มเบื่อจากการนอน
พอตื่นขึ้นมา ก็ชวนผมไปบ้านเก่าเมื่อ 50 ปีก่อน
ท่านเรียกว่า "บ้านในโรงงาน"
แต่ผมจำได้ว่า ย้ายออกมาตั้งแต่ก่อนผมเกิดซะอีก
ท่านบอกว่าพึ่งย้ายออกมาได้ไม่กี่วัน และยังเก็บของไม่หมด
ลืมของสำคัญไว้ที่นั่นต้องไปเอา
อธิบายด้วยเหตุด้วยผล ไปตั้งนานสองนาน
ท่านถามกลับมาคำเดียว "จะพาแม่ไปรึยัง"
แล้วก็ว่าผมท่ามาก นี่ถ้าแข็งแรงไปเองแล้ว
เรื่องไม่จบครับ รบเร้าจะไปให้ได้
จะให้พาขึ้นรถ แล้วเดินทาง ท่านอยากเดินทาง
ผมจะไปนั่งทำงานหน้าคอมฯ ต่อก็ไม่ได้
ต้องเปลี่ยนแผนกิจกรรมของวันนี้

[อากาศดี พาเข้าสวน]
พอออกมานอกชายคาบ้าน
ชมนกชมไม้ นั่งคุยกันสักพัก ท่านก็ขอเข้าสวน
จึงทาโลชั่นกันยุง แล้วพากันเข้าสวน
ให้ท่านนั่งดูผมถางหญ้า รดน้ำต้นไม้
ผมปลูกมะละกอไว้แบบลองผิดลองถูกหลายต้น
เป็นกิจกรรมให้คุณแม่ชม ยามว่าง
คุณน้าอีกท่าน ก็มีพื้นที่ของเค้า
แบ่งปลูกพืชผักสวนครัว อีกส่วนเป็นไม้ดอก
จากนั้นท่านก็ลืมเรื่องบ้านในโรงงาน
เป็นอันว่าปัญหาบ้านในโรงงานสำหรับวันนี้หมดไป
แต่พรุ่งนี้ ก็คงใช้สูตรพาเข้าสวน
ให้ลืมเรื่องบ้านเก่าอีกครั้ง
นี่ผมถือว่าโชคดี
ที่ท่านทรงตัวไม่ได้จากพาร์กินสัน และปั่นจักรยานไม่ได้
เพราะเห็นในข่าวหลายครั้ง และมีเพื่อนเล่าว่า
ถ้าออกบ้านได้เอง จะต้องดูแลใกล้ชิดกว่านี้เยอะ
อันตรายเป็นที่สุด
แกะจากถุงดำ ที่ต้นมะละกอกระจุก
แย่งกันโตในถุง ก็ลงดินเลย


ความคิดเห็น