ห้องแถวเมื่อห้าสิบปีก่อน - เล่าเรื่องคุณแม่ ให้คุณแม่ฟัง #4 (๕๙.)

ภาพของผม กับบ้านหลังแรกที่บ้านผึ้ง


"คุณแม่มีบ้านหลังเดียว มาตลอด  75 ปี
ตอนเล่าอาจดูเหมือนมีหลายหลัง
เพราะ ย้ายบ้าง รื้อบ้าง ไปอยู่บ้านน้าชั่วคราวบ้าง
ผมต่างหากที่มีมากกว่า 1 หลัง
เมื่อนับรวมบ้านภรรยาเข้าไปด้วย
"


[บ้านหลังแรก]
คุณแม่เกิดที่วังกะพี้ อุตรดิตถ์ พร้อมพี่น้องอีก 5 คน
ดังนั้นบ้านที่วังกะพี้ จึงเป็นบ้านหลังแรกของท่าน
รายละเอียดผมไม่ทราบเลย ท่านไม่ใช่นักเล่าเรื่องซะด้วย
ย้ายมาตอนอายุ 12 ขวบ และคงเลือนรางสำหรับท่านเช่นกัน
น้องของท่านก็คงจำอะไรไม่ได้เลยเหมือนกัน
แต่ผมเคยกลับไปเยี่ยมบ้านยายมูลหลายครั้ง
เคยไปเดินเล่นในทุ่งนา เพราะมีที่นาที่ต้องดูแล
เป็นมรดกของตระกูลชาวนาน่ะครับ

[ห้องแถวในโรงงานน้ำตาล]
คุณแม่ย้อนวัยไปราวอายุ 18 ปี
จะรักสวยรักงาม หวีผม ชอบเสื้อสีฉูดฉาด และขี้อาย
เวลาพูดถึงห้องแถว ที่เป็นบ้านพักในโรงงานน้ำตาล
ก็จะพูดถึงเพื่อนบ้าน อาทิ ป้าทอง ที่สี่แยก
เพื่อนสมประสงค์ที่สนิทกัน และอีกหลายคน
ที่ผมเองก็จำไม่ได้ เพราะเป็นเหตุการณ์ก่อนผมเกิดซะอีก
ท่านบอกว่าจำห้องแถวได้ เพราะพึ่งไปนอนที่ห้องแถวมา
และย้ายมาได้ไม่กี่วันนี้เอง
พบน้อง ก็จะให้น้องไปส่ง
พบพี่มะลิ ก็จะให้พี่มะลิเอารถไปส่ง
พบผม ก็จะให้ผมไปส่ง บ่อยเลย
บอกว่าอยากไปเอาของ เอาถุงที่แขวนไว้กับมุ้ง
เอาเสื้อเอาผ้า เอารองเท้า เพราะไม่มีใส่เลย
ท่านจำบ้านตนเองไม่ได้
ความจำเสื่อมตั้งแต่ พ.ย.59 ตอนที่ล้ม แล้วเปลี่ยนข้อสะโพกที่หัก
ตอนนั้นน้าปุ๊มาช่วยดูแลใกล้ชิด ก่อนผมออกงาน
พอถามเรื่องบ้านก็บอกว่าเป็นบ้านน้า ไม่ใช่บ้านของท่าน
และท่านก็ยังไม่มีลูก มีหลาน
และอยากกลับบ้านของตนเอง นั่นก็คงหมายถึงห้องแถว

[บ้านผึ้ง]
ตาหลิน พาคุณแม่และครอบครัว
ย้ายออกจากห้องแถว ที่เป็นสวัสดิการของพนักงานโรงงานน้ำตาล
มาซื้อที่อยู่ที่บ้านผึ้ง ที่เป็นบ้านสวน ปีไหนก็ไม่ทราบ
แต่ก่อนที่ผมจะเกิดหลายปีทีเดียว
บ้านเดิมหน้าตาเป็นอย่างไร ผมก็จำไม่ได้เลย
แต่มีภาพถ่ายอยู่ใบหนึ่งที่คุณพ่อเคยถ่ายไว้ แต่ก็ไม่เห็นอะไรมากนัก
เป็นบ้านชั้นเดียว อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่
รวมพี่น้องแม่หกคน ตาหลิน กับยายปัน ก็มีกันถึง 8 คน
ที่อยู่บ้านหลังนี้
ผมเป็นเด็กเล็กคนเดียวในบ้าน
และเป็นเด็กคนเดียวของบ้านนี้มาโดยตลอด
ผมไม่ค่อยสนิทกับคุณแม่ เพราะครอบครัวใหญ่
น้า ๆ จะช่วยกันดูแลผม คือ น้าปุ๊ น้าเปี้ยก น้ารินทร์
ส่วนน้าม๊อก กับน้าตีนั้น แยกบ้านออกไปตั้งแต่หนุ่มสาว
และน้าม็อกกลับมาใช่ช่วงที่ผมโตเป็นหนุ่มน้อยแล้ว
ก็มาทันดูแลยายปันที่ป่วยเป็นมะเร็งตับ
ช่วงผมจบ และทำงานใหม่ ๆ ได้เพียง 2 - 3 ปี

[บ้านพักในหมือง]
คุณแม่ย้ายงานจากโรงงานน้ำตาล ไปอยู่เหมืองแม่เมาะ
คาดว่าท่านไปอยู่บ้านพัก กับเพื่อน ๆ พนักงาน
แบบไหน ยังไง ไม่รู้เลย ท่านก็ไม่เคยเล่า
ตอนนี้ท่านก็จำอะไรไม่ได้เลย ถามใครก็คงไม่ได้แล้ว
แต่ท่านมีที่อยู่ในเหมืองแน่นอน
คงอยู่กับเพื่อนหลายคน
เคยเห็นภาพใช้ชุดเดรสย้อนยุคกับเพื่อน ๆ

[บ้านพักของคุณพ่อ]
หลังแต่งานกัน และมีผม
คุณแม่อยู่บ้านพักในเหมืองกับคุณพ่อ
ผมไปอยู่ตอนเล็ก ๆ มีพี่เลี้ยงมาดูแล ตอนท่านไปทำงาน
ภายหลังถึงส่งผมไปอยู่กับยายที่บ้านผึ้ง
เคยเห็นในรูปถ่าย และเห็นตอนที่ผ่านบ้านพักตอนไปฝึกงานในเหมือง
สมัยที่ยังไม่ได้รื้อบ้านพักทิ้ง ก็จะเห็นเป็นบ้าน 2 ชั้น
มีระแนงไม้ ให้ไม้เลื้อยขึ้นไปอย่างสวยงาม
ก็เห็นจากภาพน่ะครับ
ในความทรงจำ ก็รู้แต่ว่าเป็นบัาน 2 ชั้น เท่านั้นเอง

[บ้านหลังที่สอง]
ที่บ้านผึ้งมีบ้านหลังแรก และรื้อออกสร้างใหม่
ผมเรียกบ้านไม้ 2 ชั้นที่สร้างใหม่ว่า บ้านหลังที่สอง
ผมไม่ทราบที่มาที่ไปของบ้านหลังแรกเลย
อาจซื้อที่ดินพร้อมบ้านก็ได้
แต่บ้านหลังที่สองนั้น น่าจะสร้างก่อนผมเข้าโรงเรียน
เป็นบ้านที่คุณแม่สร้าง หลังจากทำงานมีเงินเดือนแล้ว
เป็นไม้ 2 ชั้น ใต้ถุนสูง
แล้วคุณแม่ก็ต่อเติมไปเรื่อย ๆ
เริ่มจากการขยายด้านหลังเป็นห้องครัว
ขยายเรือนชานติดครัว ออกไป
ทำให้ออกมานอนกันกองคะรึบ ในช่วงหน้าร้อน
กางมุ้งกันเต็มเรือนชาน เพราะอากาศร้อนมาก
ล้างหน้าแปรงฟัน ก็ยืนที่ชั้นสอง
ผมก็แอบยืนฉี่จากเรือนชานบ่อย ๆ ไม่อายฟ้าดิน
จากนั้นก็ก่อผนังที่ใต้ถุน แรก ๆ มีน้ารินทร์ไปนอน
จนน้า ๆ แยกออกมาสร้างบ้านในระแวกเดียวกัน
แล้วสุดท้ายก็ ก่อผนักปูนเป็นห้องนอนให้ผม
นั่นเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ผมมีห้องส่วนตัว
ที่อยู่ใต้ห้องนอนของคุณแม่
ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ในเมืองกับอาอิ๊ด อาน้อย
เพื่อเรียนพิเศษ เตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย

[บ้านหลังนี้]
บ้านที่อยู่ปัจจุบัน คงสร้างราวปี 2535 - 2537
โดยรื้อบ้านหลังเดิม
แล้วย้ายไปอยู่บ้านท้ายสวนเป็นการชั่วคราว
ซึ่งน้าเปี้ยกเคยสร้างไว้ ต่อมาก็แยกครอบครัวออกไป
ในบริเวณบ้าน ที่บ้านผึ้งนี้ เคยมีบ้าน 3 หลัง
คือ บ้านใหญ่ บ้านน้ารินทร์ และบ้านน้าเปี้ยก
แต่ปัจจุบันลื้อย้ายไปหมดแล้ว เหลือเพียงบ้านใหญ่หลังเดียว
สมัยก่อน บ้านน้าทั้งสองจะมีทรงคล้ายกัน
คือ 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น และ 1 ห้องน้ำ ใต้ถุนสูง
บ้านน้าเปี้ยก จะมีห้องน้ำบนบ้าน
บ้านน้ารินทร์ จะมีห้องน้ำแยกออกมาจากตัวบ้าน
ปัจจุบันบ้านใหญ่ที่สร้างใหม่ คือ บ้านคุณแม่
จะเป็นบ้านก่ออิฐถือปูนชั้นเดียว มีไม้เป็นส่วนประกอบพองาม
มี 3 ห้องนอน 1 ห้องทานอาหาร 1 ห้องครัว 2 ห้องน้ำ
ส่วนห้องนั่งเล่น จะมีหลายห้อง เป็นบ้านเล่นระดับ
เห็นว่าได้ช่างทรัพย์ เป็นคนเถินมาเป็นผู้รับเหมา
หลังคุณแม่ล้ม ก็รู้ว่าท่านต้องมีคนดูแล
ผมจึงย้ายกลับเข้ามาดูแลคุณแม่เป็นเวลา 1 ปีแล้ว
เพราะก่อนหน้านี้
ผมแยกครอบครัวออกไปอยู่ดูแลลูกสาวทั้งสาม
ตอนนี้ลูก ๆ กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย จะจบ ม.6 ล่ะ
ดังนั้นการดูแลลูก จึงปล่อยเป็นหน้าที่ของภรรยา
ส่วนลูกสาวคนโต ไปเรียนที่บางกอก ดูแลตนเองได้แล้ว
ปีนี้ลูกสาวอีกสองคน ก็กำลังลุ้นว่าจะไปอยู่ที่ไหนต่อไป

ความคิดเห็น