เพื่อนบ้านยังเยาว์ (๖๗.)

ผมกับคุณพ่อ อ่าวมะนาว ประจวบ ก่อนท่านเสียปีเศษ


[ข่าวการจากลา]
วันนี้ (2 มี.ค.61) ได้ข่าวว่าป้าเพื่อนบ้าน
เป็นเพื่อนสนิทของคุณแม่ท่านเสีย รู้สึกเศร้าเสียใจ
ระยะหลัง คนที่เรารู้จักค่อย ๆ จากไปทีละคน
คงเพราะอายุมากขึ้น คนรอบตัวก็อายุมากตาม
เพื่อนร่วมรุ่น ที่เพื่อนเคยนับก็จากไป 7 คนแล้ว (10%)
ตัวผมเองก็ไม่สมบูรณ์แข็งแรงเหมือนก่อน
โดยเฉพาะสมอง น่าจะเสื่อมเหมือนคุณแม่
คุณพ่อจากไปเกือบ 20 ปี คุณยาย คุณย่า และอีกหลายท่าน
โรคสำคัญคือมะเร็ง และสมอง ผมจึงมีความเสี่ยงทั้งคู่
เมื่อใดได้ข่าวว่าคนที่เรารู้จัก จากไป
ก็เป็นอันต้องเศร้า อีกไม่กี่ปีก็คงเป็นเรา หนีไม่พ้นหรอก
แต่ผมกลับคิดว่า เมื่อใดที่เราจากไป เมื่อนั้นเราก็เลิกเศร้า
ดังคำพระที่ว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
แม้ได้ยินมาบ่อย แต่ก็ไม่ชิน และทำใจยอมรับได้ยาก

[ภาพคุณพ่อ]
คุณพ่อเป็นนักถ่ายภาพ ท่านเก็บภาพไว้มากมาย
ภาพที่ผมใช้ประกอบบทความนี้
เป็นช่วงที่ครอบครัวไปช่วยกันขนของกลับจากกรุงเทพ
และแวะไปเที่ยวอ่าวมะนาว ที่ ประจวบ
ไปช่วง 3 - 6 มิ.ย.2538 ท่านเขียนไว้ที่อัลบั้ม
อีกไม่นานจากนั้น คุณพ่อของผมก็ล้มป่วย
คิดถึงท่าน
ไม่มีท่าน ก็ไม่มีผม
ไม่มีคุณยาย ก็ไม่มีผม
ไม่มีคุณย่า ก็ไม่มีผมในวันนี้

[คุณป้าเพื่อนบ้าน]
วันนี้ มีเพื่อนบ้านมาบอกข่าวเศร้า
ว่าป้าเพื่อนบ้านที่เคยมีบ้านอยู่ตรงข้ามกัน จากไปแล้ว
ทำให้นึกถึงเรื่องราวในอดีต ครั้งที่ผมยังเยาว์
ท่านเป็นเพื่อนบ้านที่มีความทรงจำน่าประทับใจหลายเรื่อง
ครั้งที่ผมยังเยาว์วัยนั้น บ้านเราอยู่ตรงข้ามกัน
สำหรับผมแล้ว บ้านของท่านสนิทกับบ้านของผมที่สุดก็ว่าได้
บ้านเราอยู่ตรงข้ามกัน ประตูชนกัน
บ้านท่านเป็นร้านทำผม คุณแม่จะไปทำผมประจำ
บางวันไปทำผม ผมก็ไปด้วย ไปทานข้าวทานน้ำก็บ่อย
บ้านท่านมีลูกชาย 3 คน ตอนเล็ก ผมก็ไปเล่นด้วยประจำ
คุณแม่ กับป้าเพื่อนบ้าน เป็นเพื่อนนักเรียนรุ่นเดียวกัน
จำได้ว่า บ้านป้ามีโต๊ะปิงปอง วัยรุ่นระแวกนั้น
มาตีปิงปองประจำ ผมก็ยังเด็ก ยืนติดโต๊ะ
จนคุณแม่ คุณยายมาตามกลับบ้านบ่อย
บางวันผมติดโต๊ะจนดึก กลับดึก ถูกคุณแม่ตีก็มี
คุณแม่จะไปคุยด้วยเสมอ
เพราะป้าเพื่อนบ้านจะเข้าสังคมเก่ง ร่วมทุกกิจกรรมในหมู่บ้าน
แต่คุณแม่ผมจะไม่เข้าสังคมเลย มีอะไรก็ให้คุณยายออกบ้าน
เหมือนผมหละ เก็บตัวอยู่บ้าน ยุคหลังเริ่มเป็นสังคมเมืองแล้ว
ดังนั้น คุณแม่ก็จะมีเพื่อนน้อย ถึงน้อยมากในหมู่บ้าน
ระยะหลังท่านย้ายบ้าน
ส่วนผมก็ระหก ไปตามที่เรียน ที่ทำงาน
สุดท้ายผมก็ย้ายตามครอบครัว
จะกระทั่งคุณแม่ล้ม จึงได้ลางานอยู่ดูแลท่าน

[มาเยี่ยม]
ป้าเพื่อนบ้าน มาเยี่ยมคุณแม่บ่อย (บ่อยที่สุด)
ท่านทำหน้าที่เก็บค่าสมาชิกสงเคราะห์ทุกเดือน
มาทีไรคุณแม่ก็จะร้องไห้ คุยกับท่านอย่างเปิดใจ
เพราะคุยด้วยแล้วคิดถึงอดีต เล่าเรื่องเจ็บป่วยสู่กันฟัง
ในโลกนี้จะมีสักกี่คน ที่เราคุยด้วยแล้วปล่อยโฮได้
สำหรับตัวผมเอง ก็ยังนึกไม่ออกว่ามีไหม
แต่สำหรับคุณแม่แล้ว ป้าท่านนี้ คือ เพื่อนสนิท
เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริง ๆ ที่ได้ทราบข่าวเศร้า
เพราะท่านแข็งแรงมาก
ไม่เคยเข้าโรงพยาบาล หรือเจ็บป่วยแบบคุณแม่
ดูจากสุขภาพภายนอก ท่านน่าจะอยู่อีกหลายสิบปี
แต่ทราบมาว่า ท่านล้มในห้องน้ำ 2 ครั้ง
เรื่องของสุขภาพ เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้เลย
ท่านเคยบ่นว่า ไม่อยากล้มหมอนนอนเสื่อ
เพราะไม่อยากเจ็บป่วยนาน หากต้องจากไป
สุดท้ายนี้ ขอให้ท่านหลับสู่สุขคติด้วยเทอญ

ความคิดเห็น