อัพเดทการดูแลคุณแม่ครบรอบ 2 ปี (๗๓.)



[แบ่งกัน 5+2]
ถึงวันนี้ คุณแม่ก็ล่มมาได้ราว 2 ปีกับ 1 เดือน
ผมจะกลับมาเป็นลูกคุณแม่
คอยจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ทุกสุดสัปดาห์
ตั้งแต่ตื่นนอน เข้านอน และระหว่างนอน
ส่วนวันปกติก็จะไปเป็นลูกจ้าง
หาสะตุ้งสะตังมาเป็นค่าใช้จ่าย
ให้กับพี่ที่เค้าดูแลคุณแม่ อีกส่วนก็ใช้ในครอบครัว
สุขภาพจิตผมดีขึ้นเยอะมาก
แต่รู้ว่าจะทรุดหนักคือระหว่างเดินทางกลับในเย็นวันอาทิตย์
เพื่อไปเริ่มงานเช้าวันจันทร์ จิตไม่เบิกบานเอาซะเลย
นี่ก็กำลังจะครบเวลาที่ต้องฝากคุณแม่ไว้กับผู้ดูแลแล้ว
ก็มานั่งขีดเขียนอะไร นิดนึง
กันลืมในวันหน้า (ผมก็อาจเป็นนะ โรคนี้น่ะ)

[เปลี่ยนจาก 52สัปดาห์ เป็น 5วัน+2วัน]
ราว 6 เดือนแล้ว
ที่ผมไปเป็นลูกจ้างองค์กร ไปสอนหนังสือในวันปกติ
พอสุดสัปดาห์ก็กลับมาเป็นลูกคุณแม่
แม้คุณแม่จะจำผมไม่ได้ว่าเป็นลูก แต่ผมจำได้ก็พอแล้ว
ท่านเรียกผมว่า พ่อ บ่อยเลย
น้องของคุณแม่ก็จะมาเยี่ยมในวันปกติ
จากที่พี่ดูแลเค้าเล่าให้ฟัง
ทั้งน้าปุ๊ น้าตี น้าเปี้ยก น้าริน ส่วนน้าม็อกเค้าอยู่ดูแลกัน
ล่าสุด น้าตีก็พาลูกโดกับลูกปู(สะใภ้) มาเยี่ยม
น้องโดมักจะมาพร้อมของติดไม้ติดมือเสมอ
ล่าสุดมีกุ้งมาฝากถุงใหญ่ น้าม็อกก็จะเสียบไม้ปิ้ง
ผมก็ทำหน้าที่แกะกุ้งได้เต็มจาน
มื้อนั้น จัดกุ้งเต็มจานเลย คุณแม่จัดการเรียบ
ชอบมากเป็นพิเศษกับกุ้งเผาเหยาะชีอิ้วขาวเค็มปะแร่ม ๆ

[เพื่อนคุณแม่]
ทุกครั้งที่มาเกาะคา ช่วงวันหยุด
ทุกวันเสาร์ ที่ลูกป้าศรีเพ็ญชื่อชมพู่
เปิดร้านกาแฟที่เกาะคา
ผมก็มักจะแวะไปสั่งกาแฟแก้วหนึ่ง แล้วก็ไปซื้อของที่ตลาด
เพราะเพื่อนคุณแม่ก็ไม่ค่อยมีล่ะ เหลือน้อยลงทุกวัน
อยู่ไกลบ้าง และหลายท่านที่ผมรู้จักก็ทะยอยจากกันไป
เพื่อนสนิทคุณแม่ ที่เคยมาเยี่ยมทุกเดือน
ก็เป็นโรคปัจจุบันทันด่วนอย่างไม่น่าเชื่อ
ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนจริง ๆ

[สมองดูสดใส ไม่เครียด ไม่กังวล ไม่ทุกข์]
อาการของคุณแม่ .. ดีขึ้น
สำหรับสัปดาห์นี้ ท่านสมองปลอดโปร่ง
พูดคุยโต้ตอบได้ปกติมาก
ยิงคำถามไปว่า จำผมได้ไหม ก็บอกว่าจำได้
ดูมั่นใจมาก แต่เรียกผมว่าพ่อเก๋
ผมก็ไม่อยากถามต่อล่ะว่า ผมลูกใคร
เพราะฟังแล้ว ก็จะทำให้ตนเองไม่สบายใจไปอีก
ถามทีไรก็บอกว่าเป็นลูกย่าเป็งนู่นเลย

[คิดฝันไปเอง]
หาคนอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่นี่ .. จำเป็นจริง ๆ
เพราะช่วงนี้ อาการเห็นอะไรเป็นต้องกลัวถี่ขึ้น
บางทีก็ไปนั่งข้างหน้าต่างดูกังวล
บางทีดูหนังบู้ก็เก็บมาคิดว่าเป็นจริงเป็นจัง
พี่ที่เค้าอยู่ด้วยก็จะเล่าว่ากลางคืนชอบแอบตื่น
แล้ว[ฮบ]เดินไปทั่ว
เพราะกลัวนู่นนี่ อยากนู่นนี่ อยากออกไปนอกบ้าน
คิดไปต่าง ๆ นานา กลัวคนมาทำร้าย
วันนี้ อยู่กับผมก็บอกว่า มีหมู หรือช้าง อยู่ในห้องนอน
ไม่ยอมเข้าห้องนอนตั้งแต่เช้าแล้ว
เย็น ๆ มา ผมพาไปดู แม่ก็ชี้ไปที่ตะกร้าผ้า
เห็นผ้าลายดอกน้ำตาลเป็นเงา บอกว่าเป็นนู่นนั่นนี่
ที่ผมถามว่าอยู่ตรงไหน ในตอนเย็น ไม่ถามในตอนเช้า
เพราะในใจคิดว่า
ถ้าไม่เข้าห้องนอน ก็ไม่นอนกลางวัน
พอตกกลางคืนจะได้นอนยาว ๆ ไม่ซุกซน
คิดอะไรเรื่อยเปื่อยให้ทุกข์ใจอีก

ความคิดเห็น