สงครามซอฟท์แวร์เริ่มมาตั้งแต่มีเครื่องคอมพิวเตอร์เกิดขึ้น การต่อสู้ในยุคแรกยังเป็นเวทีที่สดใหม่ไม่มีใครผูกขาดอย่างชัดเจน
เมื่อเปรียบกับสังคมมนุษย์ก็เหมือนสมัยก่อนจักรพรรดิจิ๋นซีที่แต่ละแคว้นปกครองกันเอง
ทำให้แต่ละแคว้นสู้รบปรบมือกันอยู่ตลอดเวลามีชนะบ้างแพ้บ้างแผ่นดินนองเลือดเพราะสงคราม
แต่ในภาพยนตร์เรื่องฮีโร่ (Hero) ที่พระเอกตัดสินใจตอนท้ายไม่ลงมือกับจักรพรรดิ์จิ๋นซี
เพราะยอมรับในคำว่าใต้หล้า หากไม่มีจิ๋นซีก็จะเกิดสงครามแย่งชิงแผ่นดินและนองเลือดไม่รู้จักสิ้นสุดอีก
หากเปรียบกับสังคมซอฟท์แวร์ในปัจจุบันที่มีเพียงไม่กี่บริษัทที่ขึ้นมาครองส่วนแบ่งตลาด
ทำให้เลือกซื้อซอฟท์แวร์ได้อย่างมั่นใจว่าซอฟท์แวร์ที่ซื้อจะไม่ปิดกิจการหนีหายไปในอนาคตอันใกล้
ปัจจุบันมีซอฟท์แวร์ระดับแนวหน้าอยู่ไม่มากนัก
เพราะบริษัทขนาดเล็กที่มีสายป่านไม่ยาวก็จะออกจากตลาดไป
ซอฟท์แวร์ที่ดีก็จะถูกบริษัทใหญ่ซื้อไปต่อยอดหรือทำให้หายไปในที่สุด มีตลาดซอฟท์แวร์ระดับโลก
3 แหล่ง คือ Apple app
store, Google play store และ Windows store แล้วพบว่าผลการจัดอันดับแอพ 10
อันดับแรก พบว่า free application เป็นของเว็บไซต์เครือข่ายสังคมกว่าครึ่ง
แล้วที่เหลือก็เป็นเกม หรือแอพถ่ายรูป แต่ paid application ก็จะเป็นกลุ่มเกมเกือบทั้งหมด
นั่นหมายความว่ามีบริษัทเพียงไม่กี่บริษัทที่พัฒนาแอพเข้าไปในตลาดทั้งสาม แล้วมีรายได้มากพอที่จะเลี้ยงตัวเองได้จริง
ส่วนซอฟท์แวร์ที่ใช้พัฒนาเว็บไซต์ก็มักจะใช้ระบบ Open source system ที่เป็นชุดซอฟท์แวร์สำเร็จรูปที่สามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรี อาทิ Joomla,
Wordpress, Drupal, PhpBB, Magento, OSCommerce หรือ Moodle
ปัจจุบันเริ่มมีซอฟท์แวร์ให้เลือกน้อยลง
เพราะมีความเป็นมาตรฐานมากขึ้น ภาษาที่ใช้สำหรับพัฒนาระบบซอฟท์แวร์ก็เหลือเพียงไม่กี่ภาษาที่ถูกยอมรับ
ส่วนอาชีพนักพัฒนาซอฟท์แวร์
หรือซอฟท์แวร์เฮ้าส์ในต่างจังหวัดก็ไม่ราบรื่นเหมือนในหัวเมืองใหญ่ ระบบฐานข้อมูลก็เหลือเพียงไม่กี่ราย
ทำให้นักพัฒนาเริ่มมีความชำนาญเฉพาะทาง สามารถพัฒนาซอฟท์แวร์ที่มีประสิทธิภาพ
แล้วหันไปแข่งขันเรื่องของนวัตกรรม
เพราะการวัดคุณภาพหรือความสำเร็จของซอฟท์แวร์มักวัดด้วยความแปลกใหม่เป็นหลัก ยังมีเวทีที่เปิดรอซอฟท์แวร์ใหม่อยู่ตลอดเวลา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น