คุณแม่หลายโหมด (๔๖.)

อาหารของมายมัม


[มีเพื่อน/ญาติมาเยี่ยม]
ถ้าเป็นญาติที่คุณแม่รู้จักในอดีต
และชวนคุณแม่คุยเก่ง ๆ มาเยี่ยมถึงเรือนชาน
คุณแม่จะเข้าโหมด Active
คือ พูดคุยโต้ตอบเหมือนปกติ
ไม่แสดงอาการป่วย ไม่มีง่วงซึมให้เห็น
จำอะไรได้มากมาย โดยเฉพาะญาติในอดีต
ส่วนบางครั้ง
ซึ่งเป็นได้ทั้งช่วงกลางวัน หรือกลางคืน
เมื่อคุณแม่จะนึกเรื่องอะไรขึ้นมา ที่เป็นปัญหา สักเรื่อง
ที่ห่วง กังวลเป็นพิเศษ จะเข้าโหมด High Active
ก็จะแสดงออกทางสายตา ทำตาโต กว่าปกติเยอะ
ซึ่งที่ผ่านมา เวลาเข้าสู่โหมดนี้
แล้วผมตอบปัญหาได้ เฉไฉ เปลี่ยนเรื่องได้สำเร็จ
คุณแม่ก็จะกลับเข้าสู่โหมด Normal
คือ รู้สึกเฉย ๆ ไปถึงปกติ
เหมือนตอนนั่งดูทีวี หรือชมนกชมไม้

[ง่วงซึม]
ปกติแล้ว ผมจะปล่อยให้คุณแม่ตัดสินใจในทุกเรื่อง
ตามใจตลอด
จะลุก จะนั่ง จะกิน จะเดิน จะนอน ก็แล้วแต่เลย
เพราะขัดใจไม่ได้
คุณแม่ไม่ค่อยฟังเหตุฟังผล ไม่ยอมท่าเดียว
แต่บางเรื่องก็ต้องขัดใจ
เช่น อยากไปในที่สถานที่ในอดีต แต่ไม่มีในปัจจุบัน
อยากพบคนที่จากไปนานแล้ว หรือ หาของที่ไม่มีมาก่อน
เมื่อไม่ได้อย่างใจ คุณแม่จะเข้าโหมด Sleepy
ที่สลับไปมาระหว่าง Normal กับ Sleepy ในช่วงกลางวัน
ถ้าเข้าโหมดนี้ถึงระดับหนึ่ง
ก็จะพาไปนอน ซึ่งท่านก็จะเป็นคนตัดสินใจเอง
อยู่ ๆ พาไปนอนก็ไม่ยอม
หลัง ๆ ท่านชอบนั่งอยู่ในครัว บางทีก็นั่งหลับในครัว
ในครัว คือ ห้องทานอาหาร ทานเสร็จก็นั่งต่อเลย
คงเพราะผมบอกท่านว่าเข้าครัว ไปเตรียมอาหาร
ระยะหลัง
คุณแม่ชอบจะนั่งในครัว หลังทานอาหารเสร็จ

[ช่วยตัวเองได้ กับไม่ได้]
ในบางเวลาที่อยู่ในโหมด Active
ท่านจะช่วยตัวเองได้ระดับหนึ่ง เดินระยะสั้นได้
แต่ก็เป็นเวลาสั้นเท่านั้น และชอบแอบทำ
หรือทำไปโดยไม่รู้ตัว ทำแบบใจลอย
เช่น นั่งรถเข็นในครัว ผุดลุก ผุดนั่งจะเดินเข้าบ้าน
ทั้งที่ผมก็นั่งอยู่ข้าง ๆ พอถามว่าจะไปไหน
คุณแม่บอก จะไปห้องน้ำ ก็ให้นั่งรถเข็น แล้วพาเข้าบ้าน
หากไม่ทักก็จะเดินใจลอยเข้าไปในบ้านคนเดียว
ลืมผมนั่งอยู่ตรงนั้นคนเดียว
ถ้าปล่อยท่านไป ก็จะเดินโซเซ ซึ่งล้มได้ทุกเวลาเหมือนกัน
ถ้าเข้าโหมด Sleepy มีปัญหาการทรงตัว
ไม่กังวลเรื่องเดินโซเซ ไม่กลัวเซล้ม
เดินไปตามใจสั่ง ที่เรียกว่า ใจลอย เกิดขึ้นบ่อย
ส่วนใหญ่ระยะหลังคุณแม่เริ่มดูแลตัวเองได้ดีขึ้น
ขัดขืน เพื่อจะทำเอง มีความอยากหายเป็นทุน
เข้าสู่โหมด Normal นานกว่าแต่ก่อน
แต่ตอนกลางคืน ช่วงตื่นเข้าห้องน้ำ
มักอยู่ในโหมด High Sleepy
ตอนพยุงเข้าห้องน้ำ ขาก็จะไม่มีแรง ทรงตัวแทบไม่อยู่
บางครั้งก็สั่นไปทั้งตัว จากพาร์กินสัน
แต่อาการสั่นมีไม่บ่อยนัก
ตอนกลางวันจะไม่มีอาการสั่นให้เห็น
ที่เห็น คือ ควบคุมการกลืนน้ำลายไม่ได้
กลางวันเคยกลืนน้ำลายได้ตลอด
รับยาไป 3 เวลา ทำให้กลืนน้ำลายกลางวันดีกว่า
ตื่นนอนใหม่ก็ไม่สั่น มีอาการที่ค้างอยู่ คือ ง่วงซึม
การง่วงซึมในช่วงเช้ามีผลต่อการกลืนอาหาร
ซึ่งข้าวเช้าเป็นมื้อที่หนักใจที่สุด
เนื่องจากกลืนได้ไม่ดี แต่ก็ไม่เคยสำลัก
เหมือนพาร์กินสัน กับอัลไซเมอร์จะเพิ่มขึ้นทีละน้อย

ความคิดเห็น