พุทธทาสกล่าวไว้ว่า "เช่นนั้นเอง" |
[เพื่อนของแม่]
คุณแม่ผมก็อายุเจ็ดสิบต้น ๆ ก็เยอะพอประมาณ
เมื่อคืนถามเรื่องลูกน้อยที่นอนกับท่านทุกวันว่าหายไปไหน
ถามตอนตีหนึ่งก็ต้องตอบไปว่า
คุณตา หรือคุณพ่อของคุณแม่ ท่านพาไปเที่ยวในเมือง
ท่านก็บ่นนิดหน่อยแล้วก็หลับไป
จะให้บอกว่า ลูกน้อยที่ท่านว่า คือ ผมเอง ก็คงไม่เชื่อ
นี่ก็พึ่งถามว่า ตอนอยู่โรงพยาบาลเมื่อสองเดือนก่อน
คุณแม่ได้คลอดลูกรึเปล่า ท่านก็ไม่ค่อยแน่ใจ
วันนี้ตั้งแต่เช้าดูท่านซึม ๆ ไม่สดใสเหมือนทุกวัน
[เพื่อนคุณแม่มาเยี่ยม]
คุณแม่มีเพื่อนในหมู่บ้านเยอะ ไม่ค่อยอยากไปไหน
เพื่อนคุณแม่ (ป้าไหล) มาเก็บค่าสมาชิก จ่ายไป 60 บาท
เพื่อนท่านก็เล่าว่า คนนู้น คนนั้น คนนี้ เสียไปแล้ว จำได้ไหม
พอสบโอกาส ก็ถามในเรื่องที่คาใจ
ว่า คุณตา ไปไหน เพราะถามใครก็ไม่ได้ความ
แล้วลูกน้อยของท่านไปไหน เห็นรึเปล่า
พอเพื่อนคุณแม่เล่าความจริง ว่าให้กรวดน้ำ
ท่านก็ร้องไห้ เสียใจ
รู้สึกตัวขึ้นมาว่าท่านป่วย
คุณแม่ก็คงเสียใจที่เจ็บป่วย และระบายออกมา
[โทรศัพท์ดัง]
วันนี้เพื่อนคุณแม่โทรมาจากแม่เมาะ ชื่อลุงภาค
แจ้งข่าวร้ายว่า อาต่าย ซึ่งเป็นเพื่อนของคุณแม่
จากไปแล้ว ด้วยมะเร็ง
คุณแม่เคยเล่าเรื่องเพื่อนให้ผมฟังเป็นประจำ
จำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ท่านก็ไม่รู้จะเล่าให้ใครฟัง ก็เล่าให้ผมฟัง
ส่วนลุงญัติ ก็ป่วยเหมือนแม่ แต่หนักกว่า
เพราะจำใครไม่ได้แล้ว น่าจะอัลไซเมอร์เหมือนกัน
ในอนาคตอันใกล้ เมื่อผมอายุสัก 60 70 หรือ 80
ก็คงต้องเจ็บป่วยล้มตาย ก็เป็นธรรมดา
เหมือนที่พุทธทาสท่านกล่าวไว้ "เช่นนั้นเอง"
[นั่งหลับ]
วันนี้ท่านมาแปลกกว่าทุกวัน ซึมกว่าเดิม
ท่านขอไม่ดูทีวี แต่นั่งดูผมพิมพ์ก๊อก ๆ แก๊ก ๆ
แล้วก็นั่งหลับ ไม่รบเร้าไปหลับในที่นอน
ช่วงบ่ายหลังคุยกับป้าไหล กับรับโทรศัพท์
ก็เปิดรายการถ่ายทอดให้ชม
ท่านก็นั่งหลับอีก ต่างกับทุกครั้ง
ที่จะรบเร้าไปนอนในที่นอน
คงต้องคอยสังเกต อยู่เสมอว่าท่านนั่งหลับไหม
แล้วชวนท่านไปนอนให้เป็นเรื่องราวแล้ว
กลุ่มในเฟสบุ๊ค แบบสาธารณะ เกี่ยวกับผู้สูงอายุ
https://www.facebook.com/groups/olderperson/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น